Facebook.com/FukujuSake
@FukujuSake
Other Languages
เหล้าสาเกมีความพิเศษเหมือนกับไวน์ที่นำมาเสิร์ฟพร้อมอาหารและช่วยเพิ่มรสชาติอาหาร อย่างไรก็ตาม ถึงเหล้าสาเกจะเป็นเหล้าหมักแต่ก็แตกต่างจากไวน์ และไม่เหมือนกับเบียร์ เหล้าสาเกสามารถดื่มได้โดยไม่ต้องมีกับแกล้ม หรือจะดื่มกับอาหารหลากหลายชนิดก็ได้เช่นกัน นอกจากนี้ แม้จะเป็นเหล้าสาเกชนิดเดียวกันก็สามารถเลือกดื่มได้ทั้งแบบร้อนหรือแบบเย็น ซึ่งท่านจะรู้สึกประหลาดใจในการรับรสชาติที่แตกต่างกันไปตามอุณหภูมิ
ขั้นตอนการทำเหล้าสาเก
เหล้าสาเกทำจากวัตถุดิบที่ไม่มาก แต่ต้องคัดสรรความบริสุทธิ์และรสชาติของแต่ละวัตถุดิบอย่างระมัดระวัง การสีข้าวก็จะสีจนเหลือแค่ใจกลางของเม็ดข้าว ยิ่งสีข้าวออกมากเท่าไรก็จะยิ่งทำให้เป็นเหล้าสาเกที่มีระดับพรีเมี่ยมมากขึ้น ส่วนน้ำ(มิยะมิซุ) ก็เลือกใช้น้ำที่มีความบริสุทธิ์สูงและมีปริมาณแร่ธาตุที่เหมาะสม มีการใช้เชื้อราพิเศษ (Aspergillus oryzae) ที่จะเปลี่ยนแป้งในข้าวให้เป็นน้ำตาลกลูโคส และขณะเดียวกันยีสต์ของสาเกก็จะเปลี่ยนน้ำตาลกลูโคสให้เป็นแอลกอฮอล์
ต้นกำเนิดและประวัติของเหล้าสาเกญี่ปุ่น
เหล้าสาเกญี่ปุ่นถูกนำมาใช้บริโภคและใช้ในพิธีกรรมทางศาสนา เช่น ใช้ในพิธีทางศาสนาชินโตมานานกว่า 2,000 ปี การทำนาข้าวได้เข้าสู่ประเทศญี่ปุ่นเมื่อประมาณ 300 มีก่อนคริสต์ศตวรรษ อย่างไรก็ตาม คาดว่าเหล้าสาเกนั้นมีการพัฒนาอยู่ในช่วงยุคนะระ (ค.ศ. 710 - 794) จากการระบุในบันทึก "โคจิกิ" ซึ่งเป็นบันทึกประวัติศาสตร์เล่มแรกของญี่ปุ่นที่มีการเรียบเรียงขึ้นในปี ค.ศ. 712
เหล้าสาเก Junmai เป็นเหล้าสาเกที่มีคุณภาพสูงที่สุดในบรรดาเหล้าสาเกทั้งหมด เป็นเหล้าสาเกที่บริสุทธิ์ซึ่งไม่มีการเพิ่มแอลกอฮอล์ที่หมักจากข้าวที่สีจนเหลือแค่แกนกลาง ถือเป็นเหล้าสาเกที่มีความบริสุทธิ์สูงที่มาจากการผลิตโดยใช้ความวิริยะอุตสาหะเป็นอย่างมาก
เหล้าสาเก Ginjo เป็นเหล้าที่หมักโดยใช้วิธีการแบบดั้งเดิมซึ่งไม่ใช้เครื่องจักรและต้องใช้แรงงานเป็นอย่างมาก ผลิตจากข้าวที่สีจนเหลือแค่แกนกลางและหมักบ่มในอุณหภูมิต่ำเป็นระยะเวลานาน เหล้าสาเก Ginjo มีรสชาติเบา ๆ มีกลิ่นหอมผลไม้ และมีความละมุนละไม
About Sake
